#SPRC รายงานสถานการณ์การปฏิบัติงานเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหล ประจำวันที่ 31 มีนาคม 2565
ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าดูได้ที่ www.sprc.co.th ความคืบหน้าด้านการจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบ: ตลอดเวลาที่ผ่านมา SPRC ได้ทำงานใกล้ชิดกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ในการตรวจสอบข้อมูลผู้มีสิทธิ์ได้รับการช่วยเหลืออันเนื่องมาจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหล และเดินหน้าอย่างต่อเนื่องในการช่วยบรรเทาความเดือนร้อนให้แก่ประชาชน กลุ่มประมงพื้นบ้าน ประมงพาณิชย์ โรงแรม ร้านอาหาร และผู้ประกอบอาชีพทั่วไป บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลืออย่างเป็นธรรม โปร่งใส สมเหตุ สมผล และรวดเร็ว
(วันนี้) วันที่ 31 มีนาคม 2565 บริษัทฯ ได้จ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่
– กลุ่มอาชีพอื่น ๆ ณ อบต.เพ (เสม็ด) จำนวน 281 ราย เป็นเงินประมาณ 4.24 ล้านบาท
– กลุ่มธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร จำนวน 82 ราย เป็นเงินประมาณ 10.70 ล้านบาท
สรุปยอดการจ่ายเงินช่วยเหลือ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 แยกเป็นกลุ่มดังนี้
– ประมงพื้นบ้าน และกลุ่มประมงพาณิชย์ จำนวน 2,669 ลำ เป็นเงิน 119.90 ล้านบาท
– อาชีพอื่นๆ 2,906 ราย เป็นเงิน 42.74 ล้านบาท
– โรงแรม ท่องเที่ยว ร้านอาหาร 104 ราย เป็นเงิน 17.89 ล้านบาท
รวมทั้งสิ้น เป็นเงิน 180 ล้านบาท
(หมายเหตุ: จากตารางข้างบน ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนและเงินที่ชำระมีการปรับปรุงให้สอดคล้องกับการจ่ายเงินจริง)
ความคืบหน้าด้านกิจกรรมเพื่อสังคม:
ในวันนี้ (31 มีนาคม 2565) ผู้บริหาร SPRC นำโดย นายจิระศักดิ์ มหาสุคนธ์ ผู้จัดการโครงการเพื่อสังคม คุณวิชัย ชุณหสมบูรณ์ หัวหน้าโครงการช่วยเหลือและเยียวยา และทีมงานความรับผิดชอบต่อสังคม ได้พบปะพูดคุยกับประธานชุมชนเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด (เขต 1) จำนวน 14 ชุมชน ** ณ ศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลเมืองมาบ- ตาพุด จ.ระยอง เพื่อสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติภาระกิจของบริษัทฯ เกี่ยวกับเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหล มีการแลก เปลี่ยนความคิดเห็นและรับฟังข้อเสนอแนะ ข้อกังวล รวมถึงพูดคุยปรึกษาหารือการทำงานร่วมกันระหว่างชุมชนและผู้ประกอบการ โดยมีเป้าหมายเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนของทุกฝ่าย
* *(เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด (เขต 1): บ้านล่าง, อิสลาม, มาบยา, ตลาดมาบตาพุด, บ้านพลง, มาบข่า-สำนักอ้ายงอน, หัวน้ำตกพัฒนา, บ้านบน, ซอยร่วมพัฒนา, เนินพยอม, มาบข่า-มาบใน, วัดมาบตาพุด, สำนักกะบาก, วัดโสภณ)
ความคืบด้านการเฝ้าระวังบริเวณชายฝั่ง:
SPRC ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 (จังหวัดระยอง) จัดทีมเฝ้าระวังสถานการณ์บริเวณชายฝั่งหาดแม่รำพึงตลอด 24 ชั่วโมง ดำเนินการสำรวจและตรวจสอบคราบน้ำมัน ตั้งแต่บริเวณหาดแหลมรุ่งเรือง ท่าเรือ IRPC หาดแม่รำพึง หาดสวนสน จนถึงบริเวณปากคลองแกลง เป็นระยะทางรวมกว่า 19 กิโลเมตร
ในวันที่ 30 มีนาคม 2565 ผลการติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อมพบว่า
• ไม่พบคราบน้ำมัน บริเวณชายหาดตั้งแต่สถานีกรมอุตุนิยมวิทยา – ชายหาดบ้านเพ พบวัตถุคล้ายทาร์บอลขนาด 1 – 3 cm. เพียงเล็กน้อย พบหินภูเขาไฟบาง ๆ คลื่นลมปกติ (ข้อมูล : สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 จังหวัดระยอง)
• คุณภาพเบื้องต้น: คุณภาพน้ำทั่วไป อยู่ในเกณฑ์ปกติ รับประทานอาหารทะเลได้ทุกชนิด(ข้อมูล : สำนักงานประมงจังหวัดระยอง)
• คุณภาพน้ำทะเลมีค่าพื้นฐานอยู่ในเกณฑ์ปกติ จากการสำรวจข้อมูลทางกายภาพและกิจกรรมบริเวณโดยรอบ พบว่า มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติมาเที่ยวพักผ่อน และเล่นน้ำ บริเวณพื้นที่หาดแม่รำพึง และพื้นที่เกาะเสม็ด (ข้อมูล : สํานักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 (ชลบุรี) ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ)
• พื้นที่เขาแหลมหญ้า และเกาะเสม็ด ไม่พบคราบน้ำมัน (ข้อมูล: อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า)
ความคืบหน้าและการจัดทำแผนฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม:
SPRC จับมือกับผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยในประเทศไทยหลายแห่ง เดินหน้าศึกษาและรวบรวมข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อวางแผนในการฟื้นฟูธรรมชาติให้กับชาวระยองต่อไป
สรุปผลการปฏิบัติการทางทะเลในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา:
ปฏิบัติการในทะเล:
(วานนี้) บริษัทฯ ได้ปฏิบัติงานเพื่อถอดท่ออ่อนใต้ทะเลฝั่งตะวันออก ออกจากทุ่น โดยตรวจสอบตำแหน่งวาล์วบนฝั่ง และวาล์วที่ทุ่นทุกตัวว่าอยู่ในตำแหน่งปิด ทำการติดตั้ง blind flange ที่หน้าแปลนของทุ่น เพื่อป้องกันการปนเปื้อนออกสู่ภายนอก
บริษัทจะดำเนินการเพื่อถอดท่ออ่อนใต้ทะเลฝั่งตะวันออก และดำเนินการตามขั้นตอนการเคลื่อนย้ายท่ออ่อนจากท่าเรือมายังสถานที่เก็บรักษาต่อไป
บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าปฏิบัติการในทะเลที่บริเวณทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล เพื่อตรวจสอบและเฝ้าระวังคราบฟิล์มน้ำมันในทะเล ด้วยเรือปฏิบัติการเฝ้าระวังทั้งหมด 18 ลำอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยเรือปฏิบัติการ 12 ลำ ที่ดำเนินการกางทุ่นกักน้ำมัน (Boom) จำนวน 6 เส้น พร้อมเรือปฏิบัติการ 5 ลำ เรือสั่งการ 1 ลำ และโดรน (Drone) 1 เครื่อง โดยดำเนินการบินตรวจสอบฟิล์มน้ำมันในทะเล สามารถยืนยันได้ว่าไม่มีการพบคราบฟิล์มน้ำมันแต่อย่างใด
ปฏิบัติการในทะเลใกล้ชายฝั่ง:
– เรือสนับสนุนจากกรมเจ้าท่า จำนวน 4 ลำ
– มีเรือเฝ้าระวังและตรวจสอบตลอดแนวชายฝั่ง จำนวน 2 ลำ ผลการตรวจสอบ ไม่พบคราบฟิล์มน้ำมัน
– มีการใช้ Drone บินตรวจสอบฟิล์มน้ำมันบริเวณชายฝั่ง จำนวน 2 เครื่อง ไม่พบคราบฟิล์มน้ำมัน
– บริษัทฯ จัดทีมสำรวจและทำความสะอาดบริเวณชายหาด เหมือนเช่นทุกวัน
#SPRC
ธีรวัฒน์ อินธิพันธ์ รายงาน